เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ว่า “ถึงสายการบิน, นักบิน, ผู้ค้ายาเสพติด และผู้คนมนุษย์ทั้งหมด โปรดถือว่าน่านฟ้าเหนือและโดยรอบเวเนซุเอลาถูกปิดแล้วทั้งหมด” โดยที่ทำเนียบขาวยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ
ข้อความของนายทรัมป์มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก สำนักงานบริหารการบินกลาง (FAA) ของสหรัฐฯ เตือนสายการบินต่างๆ ว่าพื้นที่ในและโดยรอบเวเนซุเอลามีกิจกรรมทางทหารมากขึ้น และเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (26 พ.ย.)
เวเนซุเอลาเพิ่งประกาศแบน 6 สายการบินระหว่างประเทศได้แก่ ไอบีเรีย, TAP โปรตุเกส, โกล (Gol) , ลาตัม (LATAM), อาเบียงกา (Avianca) และเตอร์กิชแอร์ไลน์ส ไม่ให้ลงจอดในประเทศ หลังสายการบินเหล่านี้ล้มเหลวในการกลับมาให้บริการเที่ยวบินอีกครั้งภายในเส้นตาย 48 ชั่วโมงที่เวเนซุเอลาขีดไว้
หลังนายทรัมป์มีข้อความล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศของเวเนซุเอลาก็ออกมาตอบโต้ทันที โดยกล่าวหาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ใช้คำขู่แบบยุคล่าอาณานิคม และว่าข้อความดังกล่าวเป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อชาวเวเนซุเอลาอย่างเกินกว่าเหตุ ผิดกฎหมาย และไม่มีเหตุผลอันสมควรอีกครั้ง
ทั้งนี้ โดยทางกฎหมายแล้ว สหรัฐฯ ไม่มีอำนาจในการปิดน่านฟ้าของประเทศอื่น แต่โพสต์ของนายทรัมป์อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการเดินทาง และทำให้สายการบินต่าง ๆ ลังเลที่จะให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้เพิ่มการประจำการทางทหารในทะเลแคริบเบียนมากขึ้น โดยส่งเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ “ยูเอสเอส เจอรัลด์ ฟอร์ด” กับทหารอีก 15,000 นายไปประจำการในระยะที่สามารถโจมตีถึงเวเนซุเอลา อ้างว่าเพื่อต่อสู้กับการลักลอบขนยาเสพติด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (27 พ.ย.) นายทรัมป์เตือนว่า ความพยายามของสหรัฐฯ ในการหยุดยั้งการลักลอบค้ายาเสพติด "ทางบก" ของเวเนซุเอลา จะเริ่มขึ้น "ในไม่ช้า"
ด้านนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการค้ายาเสพติดของสหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็นการพยายามขับไล่เขาออกจากตำแหน่ง
เครดิต : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2898880
